ครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.ธัญบุรี จัดประชุมวิชาการนานาชาติ
“Thai-German TVET Conference 2023”
พัฒนาอาชีวศึกษาและการจัดการศึกษา ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
c เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนผลการศึกษาวิจัยการพัฒนาการอาชีวศึกษาและการจัดการศึกษา ด้านวิชาชีพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ โรงแรม อิสติน แกรนด์ กรุงเทพ ซึ่งมีนักวิจัย นักวิชาการ นักศึกษาสนใจเข้าร่วมกว่า 200 คน
รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มทร.ธัญบุรี เผยว่า งานวิจัยและองค์ความรู้ด้านการอาชีวศึกษาและการจัดการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหา ต่อยอดและการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สู่ภาคอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ เป็นการพัฒนาคน พัฒนางาน สู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ประกอบกับ มทร.ธัญบุรี ยังมีนโยบายการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยด้านการส่งเสริมความเป็นนานาชาติ การส่งเสริมความเข้มแข็งในการสร้างเครือข่ายระดับนานาชาติเพื่อร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมในระดับมาตรฐานสากล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ในฐานะเลขานุการสมาคมระดับภูมิภาคเพื่อการอาชีวะและเทคนิคศึกษาในเอเชีย (RAVTE) ได้ประสานงานกับ TU Dortmund สหพันธรัฐเยอรมนีในการดำเนินการจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ Thai-German TVET Conference on Research Cooperation in Southeast Asia 2023 พร้อมด้วย มทร.ล้านนา เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนของนักวิจัย นักวิชาการและผู้สนใจด้านผลการศึกษาวิจัยการพัฒนาการอาชีวศึกษาและการจัดการศึกษาด้านวิชาชีพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาเครือข่ายนักวิจัย สถาบันการศึกษา และหน่วยงานวิจัยด้านอาชีวศึกษาและการศึกษาด้านวิชาชีพในภูมิภาคอาเซียน
อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า คาดหวังว่า Thai-German TVET Conference จะขยายผลความร่วมมือและกิจกรรมเพื่อยกระดับการจัดการศึกษาวิชาชีพและการอาชีวศึกษาอย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัย และที่สำคัญจะสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งต่อการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
ด้าน ผศ.อานนท์ นิยมผล คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.ธัญบุรี ในฐานะเจ้าภาพหลัก กล่าวเสริมว่า การจัด Thai-German TVET Conference ได้รับความร่วมมือที่ดีและได้รับเกียรติจากผู้บริหารสถาบันอาชีวศึกษาและมหาวิทยาลัย จากประเทศไทยและองค์กรชั้นนำนานาชาติ ทั้ง 4 กลุ่มคือ (1) สมาคมระดับภูมิภาคด้านอาชีวะและเทคนิคศึกษาในเอเชีย (2) ผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมประเทศไทย (3) เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประเทศไทย และ (4) ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยด้านการอาชีวศึกษาและฝึกอบรม สหพันธรัฐเยอรมนี ซึ่งทั้งหมดก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ องค์ความรู้งานวิจัย เกิดความร่วมมือและเครือข่ายที่จะยกระดับการจัดการศึกษาวิชาชีพและการอาชีวศึกษาได้ และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ravte-asia.rmutt.ac.th